วันศุกร์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2558

พัดลมโรงงาน ต้องผ่านมาตรฐานความปลอดภัย เท่านั้น



เลือก พัดลมโรงงาน ต้องเลือกที่มี มาตรฐานความปลอดภัย เพราะเกี่ยวกับ คนเยอะ และเครื่องจักร ด้วย 
ในปัจจุบันนี้ในการที่ก่อตั้งโรงงานอุตสาหกรรมขึ้นมาสักหนึ่งแห่ง ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ไหนจะเรื่องเงินทุน ที่ต้องมีมากกว่าธุรกิจอื่น ปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ต้องควบคุมอย่างระมัดระวัง และความปลอดภัยในโรงงานที่ต้องเข้มงวดกันอย่างเป็นพิเศษ เพราะภายในโรงงานจะมีคนงาน หรือแรงงาน ร่วมกันอยู่เป็นจำนวนมาก เพราะฉะนั้นเรื่องความปลอดภัยต่อคนงานต้องมาก่อนเป็นที่หนึ่ง ไม่ว่าจะเรื่องเครื่องมือ เครื่องจักร ต้องควบคุมให้มีการทำงานที่ปลอดภัยมากที่สุด  อีกทั้งยังเรื่องสภาพแวดล้อมภายในโรงงาน ต้องห้ามมีมลพิษ กลิ่นควัน หรือ ฝุ่นที่ฟุ้งกระจาย เพราะสิ่งเหล่านี้เมื่อสูดดมไปนานๆ อาจทำให้เป็นอันตรายต่อคนงานได้
                และในวันนี้เราจะมาพูดถึง อุปกรณ์ที่จะช่วยลดมลภาวะภายในโรงงานกันนั่นคือ “พัดลมโรงงาน” และในการที่จะเลือกพัดลมโรงงานนั้น สิ่งแรกที่จะต้องดูเลยก็คือ เรื่องความประหยัดไฟ เพราะลำพังเพียงแค่เครื่องจักรในโรงงาน ก็ใช้ไฟมากพอสมควรแล้ว เพราะฉะนั้นสิ่งไหนที่เราควรประหยัดได้ ก็ควรประหยัด มาถึงเรื่องของใบพัด ใบพัดของพัดลมโรงงานนั้น ต้องมีน้ำหนักที่เบา เพื่อให้ลมที่ออกมานั้นได้ปริมาณที่สูงสุด ส่วนการทำงานของพัดลมโรงงาน ต้องมีเสียงที่เงียบ และมีระบบระบายความร้อน เพื่อให้มอเตอร์มีอายุการใช้งานที่นานขึ้น ขณะใบพัดกำลังทำงาน ต้องไม่สั่นเวลาส่าย
                ข้อดีในการที่ท่านติดตั้งพัดลมโรงงาน คือ พัดลมโรงงานสามารถช่วยในการถ่ายเทความร้อนได้ดีกว่าพัดลมปรกติ และยังสามารถขจัดฝุ่นละออง และกลิ่นเขม่าควันภายในโรงงานของท่านอีกด้วย จึงทำให้อากาศภายในโรงงานของท่านสะอาด และสดชื่นขึ้นเมื่อทำการสูดดมเข้าไป ดังนั้นเมื่อพนักงานได้ทำงานในที่สถานที่ดีๆอากาศสดชื่น ไม่อบอ้าว ส่งผลให้งานที่ออกมาได้ประสิทธิภาพมากขึ้น
                ดังนั้นในการที่ท่านจะเลือกพัดลมโรงงาน มาติดตั้งที่โรงงานของท่านนั้น ต้องดูด้วยว่าตัวพัดลมโรงงานที่ท่านเลือกนั้นผ่านมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม หรือ มอก.ด้านการรองรับความปลอดภัยหรือไม่ เพราะอย่างที่กล่าวไปข้างต้นแล้วว่า ในการที่ท่านจะจัดตั้งโรงงานอุตสาหกรรม สิ่งหนึ่งสิ่งใดที่ท่านจะต้องคำนึงถึงเป็นอันดับแรกก็คือ เรื่องความปลอดภัย เพราะถ้าหากท่านละเลยเรื่องนี้ แล้วเกิดมีเหตุการณ์ที่ท่านไม่คาดคิดมาก่อนเกิดขึ้น ท่านอาจจะไม่สามารถกลับไปแก้ได้ เพราะฉะนั้นเห็นด้วยไหมว่า ควรป้องกันไว้ดีกว่าแก้

วันพฤหัสบดีที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2558

พัดลมดูดอากาศ กับความสำคัญในโรงงาน



                พัดลมดูดอากาศ” จำเป็นอย่างมากในสถานที่ทำงาน

 เพราะการระบายอากาศที่เหมาะสมนั้น จะช่วยเพิ่มความปลอดภัย และประสิทธิผลของพนักงาน ดังนั้นเมื่อมีการตัดสินใจ ที่จะใช้พัดลมดูดอากาศแล้วนั้น การเลือกพัดลมดูดอากาศที่เหมาะกับการใช้งาน จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องคำนึงถึง เพราะพัดลมดูดอากาศนั้น ไม่ได้มีเพียงแค่ขนาดเดียว เพราะฉะนั้นผู้เลือกจึงต้องเลือกขนาดให้เหมาะกับสถานที่ใช้งาน อีกทั้งผู้เลือกยังจำเป็นต้องมีความรู้พอสมควร ในเรื่องของพัดลมดูดอากาศ ในกรณี ของ อุตสาหกรรม การเชื่อม การมี พัดลมดูดควันเชื่อม คือ หลัก การปลอดภัย เบื้องต้น ที่ต้องมี ใน สถานที่เชื่อม นั้นนั้น 

                การเลือกพัดลมดูดอากาศ ในขั้นแรกนั้นให้ดูที่ สถานที่ๆเราจะต้องใช้งานก่อน และในการดูสถานที่สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท 1. สถานที่อันตราย 2.สถานที่ไม่อันตราย ดังนั้นถ้าเป็นพื้นที่อันตราย พัดลมดูดอากาศสำหรับสถานที่อันตรายนั้น จะต้องมีวัสดุโครงสร้าง ที่ป้องกันการเกิดประกายไฟได้ ตัวพัดลมจะมีระบบควบคุมการเกิดประกายไฟ รวมถึงมอเตอร์ด้วย จะต้องเป็นมอเตอร์แบบกันระเบิด แต่ถึงแม้ว่ามอเตอร์ชนิดนี้จะเรียกว่า มอเตอร์กันระเบิด ก็ไม่ได้หมายความว่า มอเตอร์ชนิดนี้จะไม่ระเบิด เพียงแต่มอเตอร์จะทำจากโครงสร้างที่มีความแข็งแรง ทนทานกว่ามอเตอร์ธรรมดา และมีความเหนียวพอ ที่จะไม่แตกกระจายหากมีการระเบิดเกิดขึ้น ส่วนพัดลมดูดอากาศที่จะต้องนำไปติดตั้งในสถานที่ๆไม่เป็นอันตรายนั้น จะถูกผลิตขึ้นโดยการใช้วัสดุโครงสร้างที่ไม่ต้องป้องกันการระเบิด ซึ่งต้นทุนก็จะถูกลงมา
                แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ในการที่จะเลือกพัดลมดูดอากาศทั้งสองประเภทนั้น ต้องขึ้นอยู่กับดุลพินิจพิจารณาของเจ้าหน้าที่ ที่มาติดตั้งด้วย เพราะเจ้าหน้าที่ที่มาติดตั้ง จะมีประสบการณ์และชำนาญการในการประเมินมากกว่าเรา เพราะเจ้าหน้าที่กลุ่มนี้จะผ่านงานมาอย่างเชี่ยวชาญ อีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญต่อการเลือกพัดลมดูดอากาศ คือ ขนาดของพัดลมดูดอากาศ ในการที่ท่านจะใช้ขนาดเล็ก หรือใหญ่ ต้องดูขนาดของห้องที่ท่านจะใช้งานด้วย ไม่จำเป็นเสมอไปว่า ต้องเป็นพัดลมดูดอากาศขนาดใหญ่ ถึงจะดูดอากาศได้ดี เพราะในบางครั้งขนาดห้องที่เราจะต้องติดตั้ง เหมาะกับพัดลมดูดอากาศขนาดเล็ก เราก็สมควรที่จะติดขนาดเล็ก ไม่ควรที่จะสิ้นเปลืองเลือกติดตั้งขนาดใหญ่ แต่ในบางครั้งห้องของเราเหมาะที่จะต้องติดตั้งขนาดใหญ่ แต่เราติดตั้งขนาดเล็ก จึงทำให้พัดลมดูดอากาศทำงานออกมาได้อย่างไม่มีประสิทธิภาพ

วันพุธที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ชนิดของระบบระบายอากาศ

จากที่กล่าวมาก่อนหน้านี้ ว่า ระบบระบายอากาศ สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท โดยอาศัยหลักการที่ใช้ในการดำเนินการระบายอากาศ คือ
1.      ระบบระบายอากาศแบบทำให้เจือจาง (dilution ventilation) หรือแบบทั่วไป (general dilution)
2.      ระบบระบายอากาศแบบเฉพาะที่ (local exhaust ventilation)

1.         ระบบระบายอากาศแบบทำให้เจือจาง  เป็นการระบายอากาศเพื่อลดความเข้มข้นของมลพิษซึ่งปนเปื้อน อยู่ในอากาศในโรงงาน หรือสถานประกอบการ  โดยการทำให้เจือจางลงด้วยอากาศบริสุทธิ์จากภายนอก จนกระทั่งมลพิษดังกล่าวมี ความเข้มข้นอยู่ในระดับที่ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ  หรือไม่ทำให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญ (เช่น กลิ่นอันไม่พึงประสงค์)
นอกจากนี้  ระบบระบายอากาศนี้ ยังใช้ได้ดีในการป้องกัน และควบคุมความร้อน ความชื้น และอันตรายจากการระเบิดอันเนื่องมาจากความเข้มข้นของสารเคมีบางประเภทอีกด้วย


2.         ระบบระบายอากาศแบบเฉพาะที่  เป็นการระบายอากาศเช่นเดียวกับระบบระบายอากาศแบบทำให้เจือจาง กล่าวคือ มีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันอันตรายต่อสุขภาพและควบคุมปัญหา ความเดือดร้อน รำคาญ และป้องกันอันตรายจากการระเบิด แต่หลักการและวิธีการจะแตกต่างกันออกไป คือ ระบบระบายอากาศแบบเฉพาะที่ จะอาศัยหลักการของการดูด ระบายมลพิษ พร้อมทั้งอากาศที่ถูกปนเปื้อนออกไปจากบริเวณที่เป็นแหล่งกำเนิดโดยตรง ก่อนที่มิลพิษนั้นจะเข้าไปปนเปื้อนกับอากาศ  ซึ่งประกอบไปด้วย 3 องค์ประกอบหลักสำคัญ ได้แก่
                                                         i.      ท่อดูดอากาศ (Hoods)
                                                       ii.      ท่อลม (Ducts)
                                                      iii.      พัดลมระบายอากาศ (Exhaust Fan)
 ท่อส่งลม
(ตัวอย่าง ท่อลม)


และนอกจากทั้ง 3 องค์ประกอบหลักนี้ อาจจะมีอุปกรณ์ควบคุมมลพิษ หรืออุปกรณ์ทำความสะอาดอากาศ (air cleaners) ติดตั้งด้วย ในกรณีที่จำเป็น เช่น เมื่อปริมาณสารมลพิษ มีความเข้มข้นในปล่องควันของระบบระบายอากาศ มีระดับสูงกว่ามาตรฐานคุณภาพที่ปล่อยออกมานอกโรงงาน ซึ่งกำหนดไว้สำหรับมลพิษชนิดนั้น ๆ 


วันเสาร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ประโยชน์ของระบบระบายอากาศ

จากที่กล่าวมาในบทความที่แล้ว จะเห็นได้ว่า ระบบระบายอากาศมีความสำคัญอย่างไร มีแนวคิดที่มาอย่างไร รวมถึงผลเสียของสถานประกอบการ โรงงานอุตสาหกรรมจะมีความอันตรายอย่างไรหากไม่มีนโยบายและการปฏิบัติเกี่ยวกับการควบคุมมลพิษทางอากาศ ในส่วนนี้ เราลองมาดูกันว่าเมื่อเรามีระบบระบายอากาศ เราจะได้ประโยชน์อะไรบ้างกับสิ่งนี้
1.      ระบบระบายอากาศจะป้องกันไม่ให้เกิดอัคคีภัยและการระเบิดได้ เพราะในโรงงานอุตสาหกรรมบางประเภท จะมีการใช้สารเคมีที่เป็นตัวทำละลายในกระบวนการผลิต หากมีไอสารของตัวทำละลายฟุ้งกระจายในปริมาณเข้มข้น โดยไม่มีระบบระบายอากาศที่เหมาะสม หากเมื่อใดก็ตามเกิดมีความร้อนหรือประกายไฟในบริเวรณนั้น ก็สามารถทำให้เกิดการติดไฟ ลุกไหม้ได้ หรือในบางกรณีที่โรงงานอุตสาหกรรมบางแห่งอาจมีฝุ่นฟุ้งกระจายอย่างหนาแน่น เช่นเดียวกัน อาจนำไปสู่การระเบิดขึ้นได้ หากเกิดประกายไฟขึ้น
2.      ในสภาวะห้องทำงาน สถานประกอบการ หรือโรงงานอุตสาหกรรมที่มีภาวะปิด ระบบระบายอากาศ สามารถควบคุมระดับสิ่งปนเปื้อนในอากาศให้อยู่ในระดับที่ไม่เป็นอันตรายต่อผู้ปฏิบัติงานได้
3.      ระบบระบายอากาศ สามารถควบคุม ความร้อน ความชื้นให้อยู่ในระดับที่ส่งเสริมการทำงานของผู้ปฏิบัติงานให้รู้สึกสบาย อันส่งผลให้มีประสิทธิภาพการทำงานที่ดี และในทางตรงกันข้าม หากผู้ปฏิบัติหน้าที่รู้สึกไม่สบายอันเกิดจากความร้อนและความชื้น จะทำให้หงุดหงิด เสียสมาธิ อึดอัด และในที่สุดก็จะมีผลต่อการปฏิบัติหน้าที่ อันนำไปสู่ผลผลิตที่ตกต่ำ หรือร้ายไปกว่านั้นอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ ทั้งนี้เพราะหากมีความร้อน หรือความชื้นในอากาศที่ระดับไม่เหมาะสมกับร่างกาย จะทำให้เกิดการเสียเหงื่อมากกว่าปกติ จนก่อให้เกิดอันตรายได้ ดังที่กล่าวมาแล้วในบทความก่อนหน้า ถึงอันตรายในโรงงานอุตสาหกรรม

4.      ระบบระบายอากาศที่ดี จะช่วยประหยัดทรัพยากรได้ ยกตัวอย่างเช่น ระบบดัก เก็บ วัสดุที่ฟุ้งกระจายในสถานประกอบการ หรือโรงงานอุตสาหกรรม ก็จะนำสิ่งนั้นมาใช้ประโยชน์ได้อีก รวมถึงลดปัญหาต้นทุนการกำจัด จัดการ ความสกปรก ไม่เป็นระเบียบของการฟุ้งกระจายของวัสดุ ยกตัวอย่างเช่น ขี้เลื่อยในโรงงานผลิต หรือแปลรูปผลิตภัณฑ์จากไม้ หากไม่มีการจัดการที่ดี โดยปล่อยให้ขี้เลื่อยลอยฟุ้งไปกระจัดกระจาย ขี้เลื่อยก็จะตกและกองอยู่ตามพื้น หรือเกาะตามเครื่องจักร วัสดุ เครื่องมือและอุปกรณ์ต่าง ๆ ในโรงงาน การจัดการขี้เลื่อยเพื่อลดปัญหาและอุบัติเหตุ และให้เกิดประโยชน์นี้ อาทำได้โดยติดตั้งพัดลมระบายอากาศ หรือพัดลมโรงงาน หรือ พัดลมดูดอากาศเพื่อการจัดการระบบระบายอากาศ ด้วยการดักเก็บฝุ่นเหล่านั้นเอาไว้ แทนที่จะปล่อยให้ฟุ้งกระจัดกระจาย ซึ่งนอกจากจะช่วยให้สถานประกอบการโรงงานนั้นมีสุขอนามัยที่ดี ไม่ก่อนให้เกิดโรคจากมลภาวะทางอากาศแล้ว ยังสามารถนำขี้เลื่อยพวกนี้มาเป็นวัตถุดิบในการผลิตสินค้าอื่นได้ เช่น ไม้อัด กระดานอัดจากขี้เลื่อย เป็นต้น 

ภาพตัวอย่างพัดลมดูดอากาศ

วันอังคารที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

แนวคิดของระบบระบายอากาศ


แนวคิดของระบบระบายอากาศ

จากที่กล่าวในบทความที่แล้วว่า ในโรงงานอุตสาหกรรมมีความอันตรายและอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ดังนั้นจึงมีมาตรการทางกฎหมายเข้ามาเพื่อควบคุมให้ผู้ปฏิบัติหน้าที่ในโรงงานอุตสาหกรรม มีคุณภาพชีวิตที่ดีเพื่อให้ปฏิบัติหน้าที่ในโรงงานได้อย่างปกติสุขและถูกสุขอนามัย
บทความที่แล้วกล่าวถึงอันตรายและการลดอันตรายจากอุณหภูมิที่ร้อน ด้วยระบบระบายอากาศ ซึ่งสามารถแบ่งออกได้เป็นระบบระบายอากาศแบบทั่วไป (general dilution) และระบบระบายอากาศแบบเฉพาะที่ (local exhaust ventilation) ในบทความนี้ เรามาดูกันว่า ระบบระบายอากาศแบบทั่วไป มีแนวคิดอย่างไร เหตุใดจึงต้องมีการใช้ระบบระบายอากาศ รวมถึงประโยชน์ของการระบายอากาศที่เกี่ยวกับความร้อนในโรงงานอุตสาหกรรม

แนวคิดของระบบระบายอากาศ
เนื่องจากในโรงงานอุตสาหกรรม สามารถเกิดอุบัติเหตุและมลพิษได้ตลอดเวลา ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันอันตรายต่อสุขภาพของผู้ปฏิบัติงานในโรงงานอุตสาหกรรม ทางกฎหมายจึงได้กำหนดให้มีมาตรฐานคุณภาพอากาศภายในสถานประกอบการขึ้น ทั้งนี้ มาตรฐานคุณภาพอากาศของแต่ละประเทศอาจแตกต่างกันออกไปได้
วิธีการที่ใช้ควบคุมมลพิษในอากาศ มีอยู่ด้วยกันหลายประการ เช่น
·       การเลือกใช้วัตถุดิบ และ/หรือ กรรมวิธีการผลิตที่มีอันตรายน้อยกว่า
·       การแยกกรรมวิธีการผลิตที่มีอันตรายออกไปอยู่ต่างหาก
·       การปกปิดไม่ให้มลพิษถูกปล่อยออกจากแหล่งกำเนิดเข้าสู่อากาศ
·       การระบายอากาศชนิดต่าง ๆ สำหรับการใช้อุปกรณ์คุ้มครองอันตรายส่วนบุคคลแบบต่าง ๆ นั้น ไม่ถูกจัดว่า เป็นวิธีการ ควบคุมแต่เป็นวิธีการ ป้องกันไม่ให้มลพิษเข้าสู่ร่างกายของผู้สวมใส่อุปกรณ์ฯ ทั้งนี้ภายใต้ ภาวะที่ใช้งาน มลพิษยังคงมีอยู่ในอากาศ

จะเห็นได้ว่า การระบายอากาศเป็นวิธีการควบคุมมลพิษทางอากาศที่ดีวิธีหนึ่ง โดยมีหลักการของการเคลื่อนย้ายอากาศที่ปนเปื้อนด้วยมลพิษออกไปจากสถานประกอบการ การระบายอากาศ จึงหมายถึง การจัดการเคลื่อนย้ายอากาศให้ไหลไปในทิศทาง และความเร็วที่ต้องการ ดังนั้นสามารถสรุปได้ว่า ระบบระบายอากาศนอกจากจะเคลื่อนย้ายอากาศออกไปจากสถานประกอบการแล้ว ยังสามารถดำเนินการให้อากาศบริสุทธิ์ หรืออากาศที่ต้องการไหลเข้ามาในสถานประกอบการได้เช่นกัน ดังนั้น การออกแบบระบบระบายอากาศ โดยหลักการแล้ว สามารถออกแบบและควบคุมให้เป็นไปตามความต้องการ จึงเป็นวิธีการที่ใช้ได้ผลยิ่งวิธีหนึ่งในการป้องกันอันตรายต่อสุขภาพต่อผู้ปฏิบัติงานในโรงงานอุตสาหกรรม